เรามารู้จักกับกล้ามเนื้อกัน
IMAGE SOURCE :http://www.idoctorhouse.com
กล้ามเนื้อทำหน้าที่ในการหด และ ยืดตัว
เพื่อเกิดการเคลื่อนไหว เราแบ่งกล้ามเนื้อออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน
กล้ามเนื้อลาย ทำงานภายใต้ความคิดของเรา คือเราสามารถสั่งการได้
เช่นกล้ามเนื้อ
แขน ขา
กล้ามเนื้อหัวใจ ทำงานภายใต้ระบบประสาทอัตโนมัติ
ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้
กล้ามเนื้อเรียบ ทำงานภายใต้ระบบประสาทอัตโนมัติเช่นกัน
พบได้ในทางเดินอาหาร
การทำงานของระบบกล้ามเนื้อ
IMAGE SOURCE :http://www.idoctorhouse.com
มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิต
ที่ได้รับการพัฒนาเรื่องกระดูกโครงร่างและกล้ามเนื้อ จนทำให้จัดอยู่ในกลุ่ม
“สิ่งมีชีวิตที่มีกระดูกสันหลัง” แต่สิ่งเหล่านี้พิเศษอย่างไร
และทำไมต้องพัฒนาให้มีกระดูกสันหลังด้วย ลองศึกษาความพิเศษของร่างกายเราดูครับ
จะได้เข้าใจเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น การเคลื่อนไหวของร่างกาย
การเป็นตะคริว และอาการปวดกล้ามเนื้อ
เราให้ความสำคัญกับ “กล้ามเนื้อลาย” เป็นหลัก
ที่เรียกว่า กล้ามเนื้อลาย เพราะลักษณะจากกล้องจุลทรรศน์ เมื่อมองลงไปจะพบการเรียงตัวของ เซลล์กล้ามเนื้อ มีช่วงหนาแน่น และ เบาบาง
ทำให้เกิดลักษณะลายขึ้นมา การหดตัวของกล้ามเนื้อนี้ได้รับคำสั่งจากเส้นประสาทสั่งการลงมา
ให้เกิดการสไลด์เข้าหากันของเซลล์กล้ามเนื้อ (sliding-filament theory) ซึ่งเซลล์กล้ามเนื้อที่มีความสำคัญคือ
Actin (แอคติน) และ Myosin (ไมโอซิน) โดยมีสารสื่อประสาท พลังงาน และ แคลเซียมทำงานร่วมกัน
ดูวีดีโอเพื่อความเข้าใจกัน
Video source: https://www.youtube.com/watch?v=BNe2rHuVLE8
ปวดกล้ามเนื้อคืออะไร
IMAGE SOURCE :https://mahosot.com
โรคปวดกล้ามเนื้อ คือ ภาวะตึง ปวดหรืออักเสบเรื้อรังของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งตามกล้ามเนื้อมัดเดียวหรือหลายมัด มักมีสาเหตุจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ หรือมากเกินไปจากการทำกิจกรรมประจำวัน โดยเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
อาการปวดกล้ามเนื้อ
อาการปวดกล้ามเนื้ออาจเกิดขึ้นได้ทันทีหรือหลังจากใช้กล้ามเนื้ออย่างหนัก
ปกติแล้วผู้ที่ปวดกล้ามเนื้อสามารถบอกสาเหตุของอาการปวดได้ด้วยตัวเอง อาจปวด
อักเสบ หรือระบมที่กล้ามเนื้อเพียงจุดเดียวหรือทั่วร่างกาย
สาเหตุของการปวดกล้ามเนื้อ
โดยทั่วไปผู้ที่เผชิญอาการปวดกล้ามเนื้อสามารถระบุสาเหตุได้ด้วยตัวเอง
ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความเครียด หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ
เช่น
1. การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไปหรือเคลื่อนไหวในท่าเดิมซ้ำ
ๆ จนทำให้เกิดความตึงเครียดสะสมที่กล้ามเนื้อ
2. การทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวิตประจำวันจนทำให้กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บ เช่น การออกกำลังกาย การทำงาน
เป็นต้น
การวินิจฉัยอาการปวดกล้ามเนื้อ
หากแพทย์สงสัยหรือพบว่าผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายที่ไม่ใช่การปวดกล้ามเนื้อแบบธรรมดา
แพทย์จะตรวจเพิ่มเติมดังนี้
1. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
เช่น จำนวนเม็ดเลือดแดง จำนวนเม็ดเลือดขาว
จำนวนฮีโมโกลบินในเลือด
ขนาดของเม็ดเลือด รวมไปถึงจำนวนของเกล็ดเลือด
2. ตรวจหาความผิดปกติของเอ็นไซม์และเนื้อเยื่อ
การรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ
การรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากสาเหตุทั่วไป
จากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
สามารถรักษาหรือบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ด้วยต้วเองที่บ้าน โดยวิธีการ
ดังนี้
1. พักผ่อนร่างกายจากกิจกรรมที่เป็นสาเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อ
2. รับประทานยาแก้ปวด
เช่น ไอบูโปรเฟน พาราเซตามอล
3. ประคบร้อนและประคบเย็น
ในช่วง 1-3 วันแรก ประคบเย็นด้วยน้ำแข็งห่อผ้าในบริเวณที่มีอาการปวดของกล้ามเนื้อ
และหลังจากนั้นประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการและลดการอักเสบ
4. ยืดและบริหารกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดด้วยความระมัดระวัง
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หรือทำกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเครียด เช่น การออกกำลังกายประเภทโยคะ
หรือการนั่งสมาธิ
6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
เช่น เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก
ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้มีสุขภาพที่ดีได้
หลีกเลี่ยงการออกแรงยกของหนักในช่วงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ
ภาวะแทรกซ้อนของอาการปวดกล้ามเนื้อ
อาการปวดกล้ามเนื้อสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น
ๆ ได้
เช่น
1. ปัญหาการนอนหลับ
เนื่องจากอาการปวดกล้ามเนื้อจะรบกวนเวลานอน
ควรหาท่านอนที่เหมาะสมเพื่อไม่ได้เกิดการสัมผัสบริเวณที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อจนต้องตื่นมากลางดึก
2. โรคไฟโบรมัยอัลเจีย
(Fibromyalgia)
มีรายงานวิจัยพบว่า
อาการปวดกล้ามเนื้ออาจพัฒนาไปสู่โรคไฟโบรมัยอัลเจีย
ซึ่งเป็นภาวะเรื้อรังที่มีอาการปวดไปทั่วร่างกาย
ในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีประสาทสัมผัสไวขึ้นต่ออาการปวด
การป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อ
วิธีป้องกันหรือลดความเสี่ยงอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากความเครียดหรือการทำกิจกรรมต่าง
ๆ ในชีวิตประจำวัน เริ่มได้จากตนเอง
ดังนี้
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
รวมทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย
2. ยืดกล้ามเนื้อก่อนทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้แรง
รวมทั้งหลังออกกำลังกาย
3. อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย(Warm Up) และหลังออกกำลังกาย(Cool Down)
4. พนักงานออฟฟิสหรือผู้ที่นั่งทำงานประจำที่โต๊ะ หมั่นลุกขึ้นยืน
หรือเดินยืดเส้นยืดสายอย่างน้อยทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง
เอกสารอ้างอิง
พบแพทย์
แหล่งที่มา: https://www.pobpad.com.ปวดกล้ามเนื้อ
นายแพทย์ธีรวัฒน์ สุวรรณี
แหล่งที่มา: http://www.idoctorhouse.com/library/physiology-muscle.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น